เลือกหน้า

ดร. แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และคณะผู้บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (ทีเอสอี) หรือ Thai Solar Energy Co., Ltd (TSE) ผู้ผลิตไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์

บริษัทได้ตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและความต้องการใช้พลังงานของประเทศที่เพิ่มขึ้นในอนาคตตามแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงได้ดำเนินการลงทุนในโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ชนิด PV (Photovoltaic) “โฟโต้โวเทอิค” ซึ่งเป็นการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าโดยตรง โดยตั้งบริษัท สยาม โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ 1 จำกัด (SSE 1) จำนวน 10 โครงการ ด้วยกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 80 เมกะวัตต์

สำหรับการลงทุนจะแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสละ 40 เมกะวัตต์ โดยการลงทุนในครั้งนี้บริษัทได้รับการสนับสนุนเงินกู้ระยะยาว จาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวน 5,400 ล้านบาท โดยโครงการในเฟสที่ 1 มี 5 โครงการ มีกำลังการผลิตโครงการละ 8 เมกะวัตต์ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี และ จังหวัดกาญจนบุรี ในส่วนของผู้รับเหมามีทั้งหมด 2 รายด้วยกัน ได้แก่ บริษัท คอนเนอร์ยี (ไทยแลนด์) จำกัด และ บริษัท ซันเอดิสัน เอ็นเนอร์จี (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะสามารถเริ่มจ่ายไฟให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ และเดือน มีนาคม 2556 เป็นต้นไป ซึ่งการดำเนินการก่อสร้างในเฟสแรก 5 โครงการนี้ใกล้แล้วเสร็จ

ส่วนโครงการในเฟสที่ 2 มี 5 โครงการ กำลังการผลิตโครงการละ 8 เมกะวัตต์รวม 40 เมกะวัตต์ ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดกาญจนบุรีเช่นเดียวกัน ปัจจุบันกำลังเริ่มดำเนินการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2556 อย่างไรก็ตาม โครงการทั้งหมด 10 โครงการ ที่มีกำลังการผลิต 80 เมกะวัตต์ โดยมีมูลค่าลงทุนกว่า 7,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้กว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี

ด้านคุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ บริษัท สยาม โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ 1 จำกัด ด้วยวงเงินสินเชื่อรวม 5,400 ล้านบาท จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของธนาคารที่มีต่อโครงการและทีมผู้บริหารของบริษัทเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นหนึ่งในโครงการหลักภายใต้นโยบายพลังงานที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในด้านพลังงานทดแทนที่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐในทุกรูปแบบจนถูกกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ

อีกทั้งยังเป็นโครงการที่มีความสำคัญกับความยั่งยืนของประเทศจากการเพิ่มความหลากหลายในการใช้เชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้าในระยะยาวจึงนับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ธนาคารกรุงเทพได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดังกล่าวซึ่งเสมือนการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของธนาคารที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาและการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้แก่ประเทศไทยได้ต่อไปในภายภาคหน้า